1.ให้สรุปความหมายของการสั่งการมาพอเข้าใจ
- การอำนวยการ หมายถึง การจดการของผู้บริหาร หรือผู้มี อำนาจในการสั่งการตามหน้าที่ความรับผิดชอบ ชี้แนะ บุคคล การนิเทศงาน และการติดตามผล เพื่อให้งานดำเนินไปตามแผนหรือเป้าหมายที่กำหนดไว้
.....................................................................................
2.ขั้นตอนการสั่งการหรือการอำนวยการมีอะไรบ้าง
1 ด้านการวางแผน มีส่วนในการกำหนดวัตถุประสงค์ กำหนดลักษณะงาน ช่วยตีความนโยบายขององค์การให้บุคลากรทราบ พัฒนาสิ่งใหม่ ปรับปรุงระบบและวิธีปฏิบัติให้ดีขึ้น
2 ด้านการจัดองค์การ มอบหมายงาน แบ่งงาน กำหนดมาตรฐานงาน กำหนดสายบังคับบัญชาและความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ดูแลการปฏิบัติงาน
3 ด้านการปฏิบัติการของผู้อำนวยการ กำหนดการเปลี่ยนแปลงบุคคล ประเมินผลการปฏิบัติแต่ละคน ฝึกบุคคลไว้ทดแทน ดูแลความสัมพันธ์และขวัญแกบุคลากร ศึกษาความจำเป็นและต้องการของบุคคลากร
4 ด้านการควบคุม ติดตามวิธีการและขบวนการปฏิบัติ กำหนดมาตรฐานสำหรับงานแต่ละอย่างวัดผลผลิต ตรวจสอบความถูกต้องและปริมาณงาน
.....................................................................................
3. องค์ประกอบของการอำนวยการมีอะไรบ้าง
1. ความเป็นผู้นำ เป็นกระบวนการของการสั่งการ และการใช้อิทธิพลต่อกิจกรรมต่างๆ ของสมาชิกในองค์การ ให้ยอมตามเพราะยอมรับในอำนาจที่มาจาก 3 แหล่ง คือ ขนบธรรมเนียมประเพณีที่สืบทอดกันมา อำนาจจากบารมี และอำนาจตามกฎหมาย จึงก่อให้เกิดผู้นำ 3 แบบ คือ แบบประชาธิปไตย แบบเผด็จการ และแบบตามสบาย
2. การจูงใจ มีความสำคัญต่อการสั่งการหรือการอำนวยการ เพราะเกี่ยวกับบุคลากรให้ปฏิบัติงาน จึงจำเป็นต้องมีการจูงใจหรือกระตุ้นให้อยากทำงาน โดยอาศัยหลักธรรมชาติว่ามนุษย์ต้องการ 5 ระดับได้แก่ ความต้องการขั้นพื้นฐาน คือปัจจัย 4 ความต้องการความมั่นคงปลอดภัย ความต้องการทางสังคม ความต้องการมีเกียรติยศชื่อเสียง และความต้องการประสบความสำเร็จในชีวิต
ดังนั้น ในการสั่งการโดยมีเทคนิคจูงใจด้วย ก่อนจะสั่งการควรขึ้นคำถามก่อนว่า “พอมีเวลาหรือไม่”
หรือ “คุณจะช่วยงานนี้ได้ไหม”
3. การติดต่อสื่อสาร เป็นกระบวนการสำคัญช่วยให้การอำนวยการดำเนินไปได้ด้วยดีมีประสิทธิภาพ มี 2 ลักษณะคือ สื่อสารแบบทางเดียว และสื่อสารแบบ 2 ทาง
4. องค์การและการบริหารงานบุคคล จุดม่งหมายของนักอำนวยการคือ ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและองค์การ ซึ่งต้องการไม่เหมือนกันผู้อำนวยการจึงต้องทำให้เกิดความสมดุลกัน
.....................................................................................
4. ให้นิสิตอธิบายความสำคัญของการสั่งการกับการจัดการศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้มาอย่างน้อย 5 ข้อ
1.การจัดการทรัพยากรการเรียนรู้ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะว่าพนักงานในศูนย์ทรัพยากร
การเรียนรู้ ทำงานไปในทางทิศเดียวกัน
2.ช่วยให้บุคลากรปรับปรุงระบบและวิธีปฏิบัติให้ดีขึ้น ทำให้ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ บรรลุเป้าหมาย
3.พนักงานเกิดแรงจูงใจ ทำให้เกิดผลดีกับทรัพยากรการเรียนรู้
4.ทำให้ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ บรรลุตามเป้าหมาย
5.ในการทำงานของแต่ละบุคคลมีมาตรฐานทำให้ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้มีประสิทธิภาพ
วันพุธที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554
แบบฝึกหัดหน่วยการเรียนรู้ที่ 5
1.อธิบายภารกิจหรือกิจกรรมที่สำคัญ ของศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้มีอะไรบ้าง
1. การจัดหาสื่อประเภทต่างๆ ไว้สำหรับบริการ
2. การผลิตสื่อเพื่อนำมาใช้ในการเรียนการสอน
3. การจัดระบบ จัดเก็บ แยกหมวดหมู่และจัดทำทะเบียน
4. การบริการให้ยืมวัสดุ เครื่องมืออุปกรณ์
5. การให้คำปรึกษา แนะนำการใช้และการผลิตสื่อ
6. การวิจัยและพัฒนาสื่อ
2.ถ้าหากพิจารณาบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบในศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้จะประกอบด้วยบุคคลด้านต่างๆดังนี้
1. ด้านบริหาร โดยต้องมีการกำหนดวิสัยทัศน์ จุดมุ่งหมายและภารกิจต่างๆ ให้ครอบคลุมงานหรือสิ่งที่ต้องทำ โดยต้องมีฝ่ายรับผิดชอบ ดังนี้
1.1 หัวหน้าหน่วยงาน ซึ่งอาจเรียกได้ว่า หัวหน้าศูนย์หรือผู้อำนวยการศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ก็ได้
1.2 หัวหน้างานหรือหัวหน้าฝ่าย จะมีหน้าที่ความรับผิดชอบงานในแต่ละฝ่าย
1.3 เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป จะมีหน้าที่ความรับผิดชอบเกี่ยวกับการควบคุมการจัดการงานต่างๆ
1.4 พนักงานธุรการ มีหน้าที่ความรับผิดชอบเกี่ยวกับงานด้านต่างๆ
1.5 เจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูล จะมีหน้าที่ความรับผิดชอบเกี่ยวกับการบันทึกข้อมูลต่างๆลงในคอมพิวเตอร์หรือพิมพ์เอกสาร
2. ด้านการบริการ เป็นภารกิจของศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ที่นำโครงการต่างๆออกสู่ กลุ่มเป้าหมาย
2.1 บรรณารักษ์ โดยจะมีหน้าที่ความรับผิดชอบเกี่ยวกับการจัดหา
2.2 นักวิชาการคอมพิวเตอร์ จะมีหน้าที่ความรับผิดชอบเกี่ยวกับการติดตั้งการใช้คอมพิวเตอร์
2.3 นายช่างอิเล็กทรอนิกส์ มีหน้าที่ความรับผิดชอบเกี่ยวกับการซ่อมบำรุงรักษา ติดตั้ง
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
3. ด้านการผลิตสื่อ บุคลากรที่มีหน้าที่รับผิดชอบ
นักวิชาการโสตทัศนศึกษา จะมีหน้าที่ความรับผิดชอบในการออกแบบและผลิตสื่อการเรียนการสอนในระดับต่างๆ
นักวิชาการช่างศิลป์ จะมีหน้าที่ความรับผิดชอบในด้านการออกแบบภาพประเภทต่างๆ
4. ด้านวิชาการ ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ต้องมีบทบาทและหน้าที่ในการศึกษาค้นคว้า
5. ด้านการปรับปรุงการเรียนการสอน ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ต้องมีภารกิจหน้าที่ความรับผิดชอบต่อการศึกษาเป็นสำคัญ
6. ด้านกิจกรรมอื่น เช่น มีบทบาทหน้าที่ประชาสัมพันธ์สถาบันต่อชุมชนจัดนิทรรศการหรือจัดการแสดงความก้าวหน้าต่างๆ
3.ผู้ปฏิบัติงานในศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ จำแนกเป็นประเภท3 ประเภทใหญ่ๆ คือ
1. บุคลากรทางวิชาชีพ ได้แก่ บุคลากรที่มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ทางด้านเทคโนโลยีทางการศึกษาหรือโสตทัศนศึกษาระดับปริญญาซึ่งถือว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อ (Media Specialists) หรือบางที่อาจเรียกว่านักวิชาการการโสตทัศนศึกษาก็ได้
2. บุคลากรกึ่งวิชาชีพ บุคลากรกึ่งวิชาชีพ คือ บุคคลที่ได้วุฒิประกาศนียบัตรวิชาชีพโดยมีหน้าที่ช่วยเหลือบุคลากรทางวิชาชีพเกี่ยวกับด้านเทคนิค
หรือด้านบริการ
3. บุคลากรที่ไม่มีความรู้ทางวิชาชีพ บุคลากรประเภทนี้ทำหน้าที่ทางด้านธุรกิจ เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ ฯลฯ
4.ท่านมีขั้นตอนในการจัดหาสื่อการเรียนการสอน มาใช้บริการในศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้
ขั้นตอนที่ 1 เป็นขั้นการสำรวจสภาพของสื่อในสถานศึกษาเพื่อสำรวจหาข้อเท็จจริงเบื้องต้นเป็นข้อมูลมาประกอบการจัดหา1.การสำรวจสื่อวัสดุ 2. การสำรวจเครื่องมือ
ขั้นตอนที่ 2 การสำรวจสถานที่ เป็นขั้นตอนการสำรวจวางแผนจะให้สถานที่ส่วนใดบ้างในการทำกิจกรรม เพื่อเป็นการตรวจสอบดูว่ามีสถานที่ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ต้องการมีเพียงพอแล้วหรือยังและจะต้องการจัดหาอะไรเพิ่มเติมบ้าง
ขั้นตอนที่ 3 การสำรวจความต้องการของผู้ใช้ เพื่อต้องการทราบถึงความต้องการใช้สื่อประเภทต่างๆ โดยนำข้อมูลที่ได้ไปดำเนินการจัดหาให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้
ขั้นตอนที่ 4 เป็นขั้นการจัดหา โดยนำข้อมูลที่ได้มาจากความต้องการแล้วทำเป็นโครงการสั้นๆ หรือโครงการระยะยาวเพื่อวางแผนในเรื่องงบประมาณในการจัดหาต่อไป
5.อธิบายวิธีการจัดซื้อจัดหาวัสดุครุภัณฑ์เพื่อมาใช้ในกิจกรรมและบริการ ท่านมีหลักเกณฑ์สำคัญ อะไรบ้าง
1.ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ควรมีแหล่งที่จำหน่ายโสตทัศนูปกรณ์แต่ละประเภทไว้สำหรับเป็นข้อมูลในการจัดซื้อ
2.ผู้ทำหน้าที่ในการจัดหาสื่อ ควรไปศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องมือจากแหล่งร้านค้า เพื่อติดตามการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับวิวัฒนาการของสื่อและจะได้มีโอกาสศึกษาจากเครื่องมือหรืออุปกรณ์นั้นโดยตรง
3.ควรสำรวจราคาของสื่อแต่ละประเภทเป็นระยะๆเพื่อประโยชน์ในการจัดตั้งงบประมาณ
6.การบริหารงานบุคคลหมายถึงศิลปะในการสรรหาและคัดเลือกบุคคลเข้ามาทำงานในองค์การ มอบหมายงาน พัฒนาบุคคลและให้พ้นจากงาน โดยคำนึงถึงประสิทธิภาพของเป้าหมายหรือบริการของศูนย์ฯ หรือหน่วยงานเป็นสำคัญ
7.หลักการบริหารงานบุคคลมี 2 ระบบ คือ
1. ระบบคุณธรรม Merit System ใช้หลักเกณฑ์
1.1 หลักความเสมอภาค เช่น มีสิทธิสอบได้ทุก
1.2 หลักความสามารถ เช่น คัดเลือกผู้มีความสามารถสูงไว้ก่อน
1.3 หลักความมั่นคง เช่น ถ้าไม่ผิดวินัย ก็ไม่ถูกลงโทษให้ออก อยู่จนเกษียณ
1.4 หลักความเป็นกลางทางการเมือง เช้า ห้ามข้าราชการเป็นกรรมการบริษัท
2. ระบบอุปถัมภ์ Patronage System ยึดถือพวกพ้อง เครือญาติ หรือผู้มีอุปการคุณ
8.การจำแนกตำแหน่ง จำแนกได้ 3 ประเภท คือ
1.จำแนกตำแหน่งตามลักษณะตำแหน่ง Position Classification เป็นการจำแนกตำแหน่งโดยถือ ลักษณะความรับผิด ชอบของตำแหน่งเป็นสำคัญ
2.การจำแนกตำแหน่งตามลักษณะยศ Rank Classification เป็นการจำแนกตำแหน่งตามตำแหน่งที่ประกอบกับชั้นยศ ใช้กับทหาร ตำรวจ
3.การจำแนกตำแหน่งตามลักษณะชั้นยศทางวิชาการ Academic Rank Classification จำแนก ตามคุณลักษณะความเชี่ยวชาญ วิชาการ เช่น ครู อาจารย์
9.ขั้นตอนของกระบวนการวางแผนกำลังคน ได้แก่
1. ศึกษานโยบายและแผนขององค์การ กระบวนการวางแผนกำลังคนต้องให้สอดคล้องกับนโยบายและแผนขององค์การ
2.การตรวจสภาพกำลังคน; ค้นหาอย่างเป็นระบบเกี่ยวกับสภาพกำลังคนที่มีอยู่ในองค์การ
3.การพยากรณ์ความต้องการกำลังคน คล้ายกับการตรวจสภาพกำลังคน แต่การพยากรณ์มุ่งเน้นอนาคต
4.การเตรียมหาคนสำหรับอนาคต
10.การงานแผนกำลังคนที่ดีต้องทราบสาระดังนี้
1. ภาระงาน หน้าที่ความรับผิดชอบชั่วโมงงาน
2. การออกแบบงาน เป็นการออกแบบโครงสร้างงานต่างๆ ทั้งองค์การว่ามีกลุ่มงานอะไรบ้าง
3. การวิเคราะห์งาน วิเคราะห์งานแต่ละตำแหน่ง กำหนดคุณลักษณะที่จำเป็นแต่ละตำแหน่ง
4. รายละเอียดของตำแหน่งงาน เป็นการกำหนดชื่อตำแหน่งงานที่ต้องปฏิบัติ
5. คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง เป็นการกำหนดรายละเอียดในตำแหน่งลึกลงไปอีก
6. การทำให้งานมีความหมาย เป็นวิธีการจูงใจและพัฒนาบุคลากรให้เกิดความพึงพอใจในการทำงาน
11.บุคลากรด้านทรัพยากรการเรียนรู้มี 3 ประเภท
1.ด้านบริหาร โดยมีการกำหนดวิสัยทัศน์ จุดมุ่งหมายและภารกิจต่างๆ
2.ด้านการบริการ เป็นภารกิจของศูนย์สื่อการศึกษาที่นำโครงการต่างๆออกสู้กลุ่มเป้าหมาย
3.บุคลากรด้านการผลิตสื่อ
1. การจัดหาสื่อประเภทต่างๆ ไว้สำหรับบริการ
2. การผลิตสื่อเพื่อนำมาใช้ในการเรียนการสอน
3. การจัดระบบ จัดเก็บ แยกหมวดหมู่และจัดทำทะเบียน
4. การบริการให้ยืมวัสดุ เครื่องมืออุปกรณ์
5. การให้คำปรึกษา แนะนำการใช้และการผลิตสื่อ
6. การวิจัยและพัฒนาสื่อ
2.ถ้าหากพิจารณาบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบในศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้จะประกอบด้วยบุคคลด้านต่างๆดังนี้
1. ด้านบริหาร โดยต้องมีการกำหนดวิสัยทัศน์ จุดมุ่งหมายและภารกิจต่างๆ ให้ครอบคลุมงานหรือสิ่งที่ต้องทำ โดยต้องมีฝ่ายรับผิดชอบ ดังนี้
1.1 หัวหน้าหน่วยงาน ซึ่งอาจเรียกได้ว่า หัวหน้าศูนย์หรือผู้อำนวยการศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ก็ได้
1.2 หัวหน้างานหรือหัวหน้าฝ่าย จะมีหน้าที่ความรับผิดชอบงานในแต่ละฝ่าย
1.3 เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป จะมีหน้าที่ความรับผิดชอบเกี่ยวกับการควบคุมการจัดการงานต่างๆ
1.4 พนักงานธุรการ มีหน้าที่ความรับผิดชอบเกี่ยวกับงานด้านต่างๆ
1.5 เจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูล จะมีหน้าที่ความรับผิดชอบเกี่ยวกับการบันทึกข้อมูลต่างๆลงในคอมพิวเตอร์หรือพิมพ์เอกสาร
2. ด้านการบริการ เป็นภารกิจของศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ที่นำโครงการต่างๆออกสู่ กลุ่มเป้าหมาย
2.1 บรรณารักษ์ โดยจะมีหน้าที่ความรับผิดชอบเกี่ยวกับการจัดหา
2.2 นักวิชาการคอมพิวเตอร์ จะมีหน้าที่ความรับผิดชอบเกี่ยวกับการติดตั้งการใช้คอมพิวเตอร์
2.3 นายช่างอิเล็กทรอนิกส์ มีหน้าที่ความรับผิดชอบเกี่ยวกับการซ่อมบำรุงรักษา ติดตั้ง
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
3. ด้านการผลิตสื่อ บุคลากรที่มีหน้าที่รับผิดชอบ
นักวิชาการโสตทัศนศึกษา จะมีหน้าที่ความรับผิดชอบในการออกแบบและผลิตสื่อการเรียนการสอนในระดับต่างๆ
นักวิชาการช่างศิลป์ จะมีหน้าที่ความรับผิดชอบในด้านการออกแบบภาพประเภทต่างๆ
4. ด้านวิชาการ ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ต้องมีบทบาทและหน้าที่ในการศึกษาค้นคว้า
5. ด้านการปรับปรุงการเรียนการสอน ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ต้องมีภารกิจหน้าที่ความรับผิดชอบต่อการศึกษาเป็นสำคัญ
6. ด้านกิจกรรมอื่น เช่น มีบทบาทหน้าที่ประชาสัมพันธ์สถาบันต่อชุมชนจัดนิทรรศการหรือจัดการแสดงความก้าวหน้าต่างๆ
3.ผู้ปฏิบัติงานในศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ จำแนกเป็นประเภท3 ประเภทใหญ่ๆ คือ
1. บุคลากรทางวิชาชีพ ได้แก่ บุคลากรที่มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ทางด้านเทคโนโลยีทางการศึกษาหรือโสตทัศนศึกษาระดับปริญญาซึ่งถือว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อ (Media Specialists) หรือบางที่อาจเรียกว่านักวิชาการการโสตทัศนศึกษาก็ได้
2. บุคลากรกึ่งวิชาชีพ บุคลากรกึ่งวิชาชีพ คือ บุคคลที่ได้วุฒิประกาศนียบัตรวิชาชีพโดยมีหน้าที่ช่วยเหลือบุคลากรทางวิชาชีพเกี่ยวกับด้านเทคนิค
หรือด้านบริการ
3. บุคลากรที่ไม่มีความรู้ทางวิชาชีพ บุคลากรประเภทนี้ทำหน้าที่ทางด้านธุรกิจ เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ ฯลฯ
4.ท่านมีขั้นตอนในการจัดหาสื่อการเรียนการสอน มาใช้บริการในศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้
ขั้นตอนที่ 1 เป็นขั้นการสำรวจสภาพของสื่อในสถานศึกษาเพื่อสำรวจหาข้อเท็จจริงเบื้องต้นเป็นข้อมูลมาประกอบการจัดหา1.การสำรวจสื่อวัสดุ 2. การสำรวจเครื่องมือ
ขั้นตอนที่ 2 การสำรวจสถานที่ เป็นขั้นตอนการสำรวจวางแผนจะให้สถานที่ส่วนใดบ้างในการทำกิจกรรม เพื่อเป็นการตรวจสอบดูว่ามีสถานที่ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ต้องการมีเพียงพอแล้วหรือยังและจะต้องการจัดหาอะไรเพิ่มเติมบ้าง
ขั้นตอนที่ 3 การสำรวจความต้องการของผู้ใช้ เพื่อต้องการทราบถึงความต้องการใช้สื่อประเภทต่างๆ โดยนำข้อมูลที่ได้ไปดำเนินการจัดหาให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้
ขั้นตอนที่ 4 เป็นขั้นการจัดหา โดยนำข้อมูลที่ได้มาจากความต้องการแล้วทำเป็นโครงการสั้นๆ หรือโครงการระยะยาวเพื่อวางแผนในเรื่องงบประมาณในการจัดหาต่อไป
5.อธิบายวิธีการจัดซื้อจัดหาวัสดุครุภัณฑ์เพื่อมาใช้ในกิจกรรมและบริการ ท่านมีหลักเกณฑ์สำคัญ อะไรบ้าง
1.ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ควรมีแหล่งที่จำหน่ายโสตทัศนูปกรณ์แต่ละประเภทไว้สำหรับเป็นข้อมูลในการจัดซื้อ
2.ผู้ทำหน้าที่ในการจัดหาสื่อ ควรไปศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องมือจากแหล่งร้านค้า เพื่อติดตามการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับวิวัฒนาการของสื่อและจะได้มีโอกาสศึกษาจากเครื่องมือหรืออุปกรณ์นั้นโดยตรง
3.ควรสำรวจราคาของสื่อแต่ละประเภทเป็นระยะๆเพื่อประโยชน์ในการจัดตั้งงบประมาณ
6.การบริหารงานบุคคลหมายถึงศิลปะในการสรรหาและคัดเลือกบุคคลเข้ามาทำงานในองค์การ มอบหมายงาน พัฒนาบุคคลและให้พ้นจากงาน โดยคำนึงถึงประสิทธิภาพของเป้าหมายหรือบริการของศูนย์ฯ หรือหน่วยงานเป็นสำคัญ
7.หลักการบริหารงานบุคคลมี 2 ระบบ คือ
1. ระบบคุณธรรม Merit System ใช้หลักเกณฑ์
1.1 หลักความเสมอภาค เช่น มีสิทธิสอบได้ทุก
1.2 หลักความสามารถ เช่น คัดเลือกผู้มีความสามารถสูงไว้ก่อน
1.3 หลักความมั่นคง เช่น ถ้าไม่ผิดวินัย ก็ไม่ถูกลงโทษให้ออก อยู่จนเกษียณ
1.4 หลักความเป็นกลางทางการเมือง เช้า ห้ามข้าราชการเป็นกรรมการบริษัท
2. ระบบอุปถัมภ์ Patronage System ยึดถือพวกพ้อง เครือญาติ หรือผู้มีอุปการคุณ
8.การจำแนกตำแหน่ง จำแนกได้ 3 ประเภท คือ
1.จำแนกตำแหน่งตามลักษณะตำแหน่ง Position Classification เป็นการจำแนกตำแหน่งโดยถือ ลักษณะความรับผิด ชอบของตำแหน่งเป็นสำคัญ
2.การจำแนกตำแหน่งตามลักษณะยศ Rank Classification เป็นการจำแนกตำแหน่งตามตำแหน่งที่ประกอบกับชั้นยศ ใช้กับทหาร ตำรวจ
3.การจำแนกตำแหน่งตามลักษณะชั้นยศทางวิชาการ Academic Rank Classification จำแนก ตามคุณลักษณะความเชี่ยวชาญ วิชาการ เช่น ครู อาจารย์
9.ขั้นตอนของกระบวนการวางแผนกำลังคน ได้แก่
1. ศึกษานโยบายและแผนขององค์การ กระบวนการวางแผนกำลังคนต้องให้สอดคล้องกับนโยบายและแผนขององค์การ
2.การตรวจสภาพกำลังคน; ค้นหาอย่างเป็นระบบเกี่ยวกับสภาพกำลังคนที่มีอยู่ในองค์การ
3.การพยากรณ์ความต้องการกำลังคน คล้ายกับการตรวจสภาพกำลังคน แต่การพยากรณ์มุ่งเน้นอนาคต
4.การเตรียมหาคนสำหรับอนาคต
10.การงานแผนกำลังคนที่ดีต้องทราบสาระดังนี้
1. ภาระงาน หน้าที่ความรับผิดชอบชั่วโมงงาน
2. การออกแบบงาน เป็นการออกแบบโครงสร้างงานต่างๆ ทั้งองค์การว่ามีกลุ่มงานอะไรบ้าง
3. การวิเคราะห์งาน วิเคราะห์งานแต่ละตำแหน่ง กำหนดคุณลักษณะที่จำเป็นแต่ละตำแหน่ง
4. รายละเอียดของตำแหน่งงาน เป็นการกำหนดชื่อตำแหน่งงานที่ต้องปฏิบัติ
5. คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง เป็นการกำหนดรายละเอียดในตำแหน่งลึกลงไปอีก
6. การทำให้งานมีความหมาย เป็นวิธีการจูงใจและพัฒนาบุคลากรให้เกิดความพึงพอใจในการทำงาน
11.บุคลากรด้านทรัพยากรการเรียนรู้มี 3 ประเภท
1.ด้านบริหาร โดยมีการกำหนดวิสัยทัศน์ จุดมุ่งหมายและภารกิจต่างๆ
2.ด้านการบริการ เป็นภารกิจของศูนย์สื่อการศึกษาที่นำโครงการต่างๆออกสู้กลุ่มเป้าหมาย
3.บุคลากรด้านการผลิตสื่อ
วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2554
แบบฝึกหัดหน่วยการเรียนรู้ที่ 4
1. ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ถ้าแบ่งตามกลุ่มเป้าหมายของระบบการศึกษาได้กี่ประเภท อะไรบ้าง จงอธิบาย
ตอบ ประเภทของศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้แบ่งได้ 3 ประเภท คือ
1.การศึกษาในระบบ การศึกษาที่กำหนดจุดมุ่งหมาย วิธีการศึกษา หลักสูตร ระยะเวลาของการศึกษา การวัดและประเมินผล ซึ่งเป็นเงื่อนไขของการสำเร็จการศึกษาที่แน่นอนเป็นการจัดการศึกษาที่มีหลักสูตร ครูผู้สอน สื่ออุปกรณ์ รูปแบบวิธีการสอน สถานที่ศึกษา เช่น การจัดการศึกษาก่อนวัยเรียน การศึกษาขั้นพื้นฐาน การศึกษาอาชีวศึกษา และการศึกษาระดับอุดมศึกษา
2.การศึกษานอกระบบ การศึกษาที่จัดให้กับประชาชน ทุกเพศทุกวัย ไม่จากัดพื้นฐานการศึกษา อาชีพ ประสบการณ์หรือความสนใจมีจุดมุ่งหมายที่จะให้ผู้เรียนได้รับความรู้ด้านพื้นฐาน ทักษะในการประกอบอาชีพ และทักษะที่จาเป็นสาหรับความรู้ด้านอื่นๆ เป็นฐานในการดำรงชีวิตการจัดการศึกษานอกระบบ มีความยึดหยุ่นในการกำหนดจุดมุ่งหมาย รูปแบบ วิธีการจัดการศึกษา ระยะเวลาของการศึกษา การวัดผลและ ประเมินผล ซึ่งเป็นเงื่อนไขการสำเร็จการศึกษา โดยเนื้อหาและหลักสูตรจะต้องมีความเหมาะสมสอดคล้องกับวิถีชีวิตและความต้องการของผู้เรียน เช่น การสอนผู้ใหญ่ที่ไม่รู้หนังสือให้อ่านออกเขียนได้ และเข้าใจหน้าที่พลเมือง
3.การศึกษาตามอัธยาศัย การศึกษาที่เกิดขึ้นตามวิถีชีวิตที่ผู้เรียนเรียนรู้ด้วยตนเองตาม
ความสนใจ ศักยภาพ ความพร้อม และโอกาส ศึกษาจากประสบการณ์การทางาน บุคคล ครอบครัว สื่อมวลชน ชุมชน แหล่งความรู้ต่างๆ เพื่อเพิ่มพูนความรู้ ทักษะ ความบันเทิง และการพัฒนาคุณภาพชีวิตโดยมีลักษณะที่สำคัญคือ ไม่มีหลักสูตร ไม่มีเวลาเรียนที่แน่นอน ไม่จากัดอายุ ไม่มีการลงทะเบียน ไม่มีการสอบ ไม่มีการรับประกาศนียบัตร มีหรือไม่มีสถานศึกษาที่แน่นอน เรียนที่ไหนก็ได้ สามารถเรียนได้ตลอดเวลาและเกิดขึ้นในทุกช่วงวัยตลอดชีวิต เช่น เด็กเรียนรู้ เกี่ยวกับภาษาและคาศัพท์ต่างๆ จากโทรทัศน์ จากพ่อแม่
2. ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้แต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร จงอธิบาย
ตอบ
1.ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ประเภทการศึกษาในระบบ เป็นศูนย์ที่สนับสนุนการเรียนการสอนทั้งสื่อ วัสดุ อุปกรณ์ ให้สอดคล้องกับหลักสูตรการเรียนการสอน โดยมีการกำหนดจุดมุ่งหมาย ของวิธีการศึกษา หลักสูตร ระยะเวลาของการศึกษา การวัดและประเมินผล ซึ่งเป็นเงื่อนไขของการสำเร็จการศึกษาที่แน่นอน
2. ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ประเภทการศึกษาในระบบ เป็นศูนย์ที่สนับสนุนการเรียนการสอนทั้งสื่อ วัสดุ อุปกรณ์ ให้สอดคล้องกับหลักสูตรการเรียนการสอน โดยมีการกำหนดจุดมุ่งหมาย ของวิธีการศึกษา หลักสูตร ระยะเวลาของการศึกษา การวัดและประเมินผล ซึ่งเป็นเงื่อนไขของการสำเร็จการศึกษาที่แน่นอน
3. ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ประเภทการศึกษาตามอัธยาศัย เป็นการศึกษาที่เกิดขึ้นตามวิถีชีวิตที่ผู้เรียนเรียนรู้ด้วยตนเองตาม ความสนใจ ศักยภาพ ความพร้อม และโอกาสศึกษาจากประสบการณ์การทำงาน บุคคล แหล่งความรู้ต่างๆ เพื่อเพิ่มพูนความรู้ ทักษะโดยไม่มีหลักสูตร ไม่มีเวลาเรียนที่แน่นอน ไม่จำกัดอายุ ไม่มีการลงทะเบียน ไม่มีการสอบ ไม่มีการรับประกาศนียบัตร มีหรือไม่มีสถานศึกษาที่แน่นอน
3. ให้นิสิตหาตัวอย่างศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ประเภท ละ 3 ศูนย์ พร้อมบอกสถานที่ตั้ง และกลุ่มเป้าหมายของศูนย์นั้น ๆ พร้อมแหล่งอ้างอิง
ตอบ
ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ประเภทการศึกษาในระบบ ได้แก่
- สำนักหอสมุดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
สถานที่ตั้ง : 239 ถนนห้วยแก้ว อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50200
กลุ่มเป้าหมาย : นิสิต นักศึกษา อาจารย์และบุคลากร
แหล่งอ้างอิง : http://library.cmu.ac.th/cmul/
- สำนักหอสมุด มหาวิทยลัยเกษตรศาสตร์
สถานที่ตั้ง : เลขที่ 50 ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900
กลุ่มเป้าหมาย : นิสิต นักศึกษา อาจารย์และบุคลากร
แหล่งอ้างอิง : http://www.ku.ac.th/portal/
- สำนักหอสมุดมหาวิทยาลัยบูรพา
สถานที่ตั้ง : 169 ถ.ลงหาดบางแสน ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี 20131
กลุ่มเป้าหมาย : นิสิต นักศึกษา อาจารย์และบุคลากร
แหล่งอ้างอิง : http://www.lib.buu.ac.th/webnew2/
ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ประเภทการศึกษาในระบบ ได้แก่
- ศูนย์ฝึกอาชีพสวนลุมพินี
สถานที่ตั้ง : สวนลุมพินี ติดที่จอดรถด้านใน ประตู 8 ใกล้ ถนนสารสิน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานครกลุ่มเป้าหมาย : ประชาชนทั่วไป ทุกเพศ ทุกวัย แหล่งอ้างอิง : http://www.suanlumtrain.com/
- ศูนย์ฝึกอาชีพเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ครบ 36 พรรษา
สถานที่ตั้ง : 104 ม.3 ต.บางละมุง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี 20150
กลุ่มเป้าหมาย : ประชาชนทั่วไป ทุกเพศ ทุกวัย แหล่งอ้างอิง : http://www.svtc.go.th/th/about.php
- ศูนย์ฝึกอาชีพบางพลัด
สถานที่ตั้ง : ซอยจรัลสนิทวงศ์ 79 ถนนจรัญสนิทวงศ์ เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร
กลุ่มเป้าหมาย : ประชาชนทั่วไป ทุกเพศ ทุกวัย แหล่งอ้างอิง : http://www.bangpald.th.gs
ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ประเภทการศึกษาตามอัธยาศัย ได้แก่
- สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ Museum Siam
สถานที่ตั้ง : เลขที่ 4 ถนนสนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200 กลุ่มเป้าหมาย : ประชาชนทั่วไป ทุกเพศ ทุกวัย แหล่งอ้างอิง : http://museumsiam.com/
- พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย
สถานที่ตั้ง : ตั้งอยู่บนเขาหมาจอ ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
กลุ่มเป้าหมาย : ประชาชนทั่วไป ทุกเพศ ทุกวัย
แหล่งอ้างอิง : http://www.tis-museum.org/index_sub.html
- พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.)
สถานที่ตั้ง : กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนธานี ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 12120กลุ่มเป้าหมาย : ประชาชนทั่วไป ทุกเพศ ทุกวัย
แหล่งอ้างอิง : http://www.nsm.or.th/nsm2009/index.php
4. ให้นิสิตแต่ละคน หาตัวอย่างของศูนย์สำหรับการศึกษาตามอัธยาศัยมา คนละ 1 ศูนย์ โดยต้องอธิบายดังรายละเอียดต่อไปนี้
4.1 นโยบาย ของศูนย์ วิสัยทัศน์ และกลุ่มเป้าหมายของศูนย์
สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ Museum Siam
นโยบาย : เพื่อเปิดกว้างทางการศึกษา และทั้งนำมาซึ่งความมีชีวิตชีวา และความเพลิดเพลิน บทบาทพิพิธภัณฑ์ยุคใหม่ เป็นแหล่งเรียนรู้ที่รื่นรมย์ ด้วยเทคนิคที่ทันสมัย ช่วยให้ผู้คนตระหนักรู้ในอัตลักษณ์ของตน และสภาพแวดล้อม พิพิธภัณฑ์ยุคใหม่ต้องไม่แยกตัวออกจากสังคมและ ชีวิตประจำวัน แต่จะต้องส่งเสริมให้ผู้คนมีสำนึกให้วิถีชีวิต ความเป็นมาทั้งในและนอกท้องถิ่นของตน ไม่เน้นการเรียนรู้ที่ชิ้นวัตถุเพื่อรู้จักชิ้น วัตถุ แต่เพื่อเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ และมนุษย์กับธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม โดยการนำเสนอประเด็นในรูปแบบที่มีความหลากหลายมากกว่าการแสดงชิ้นวัตถุ เน้นกระบวนการเรียนรู้แสวงหาความรู้ที่มีความเคลื่อนไหวมากกว่าการเป็นสถาบันที่แข็งตัว เปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วม มีการเชื่อมโยงออกสู่ชุมชนบ้านโรงเรียนโดยใช้การสื่อสารออกไปสู่สภาพแวดล้อมภายนอก
วิสัยทัศน์ : เป็นแหล่งเรียนรู้ที่ให้ความรู้เรื่องความเป็นมาของ บ้านเมือง จนมาเป็นประเทศไทยในปัจจุบัน เพื่อก่อเกิดการเรียนรู้ สร้างสำนึกรักบ้านเมืองและท้องถิ่นของตน รวมทั้งเชื่อมโยงความสัมพันธ์ในลักษณะ"เครือญาติ" กับประเทศเพื่อนบ้านอันเป็นองค์ความรู้ที่นำไปสู่ความมั่นคงและสันติภาพใน ภูมิภาค
กลุ่มเป้าหมาย : กลุ่มเป้าหมายหลัก คือ คนไทย ประกอบด้วยเด็ก เยาวชน นักเรียน นักศึกษา ประชาชนทั่วไป กลุ่มเป้าหมายรอง คือ คนต่างประเทศ นักท่องเที่ยว
4.2 แหล่งที่มาของศูนย์ :รัฐบาลมีภารกิจที่สำคัญ คือ การทำให้สังคมไทยเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ ทำให้คนไทยมี คุณภาพด้วยการที่สามารถแสวงหาความรู้ใหม่ๆ ด้วยตนเองได้ตลอดเวลา ดังนั้นสังคมจึงควรมีแหล่งที่จะแสวงหาความรู้ที่มีความหลากหลายในรูปแบบและ เนื้อหา ในประเทศที่พัฒนาแล้วส่วนมากจะมีแหล่งแสวงหาความรู้สำหรับคนในแต่ละช่วงวัย และมีความสนใจต่างๆ โดยมีทั้งห้องสมุด พิพิธภัณฑ์ ศูนย์วัฒนธรรม ศูนย์นันทนาการและกีฬา โรงละคร หอศิลป์ และสถานที่แสดงดนตรี รวมทั้งสนับสนุนให้ ชุมชนมีกิจกรรมเพื่อการเติบโตของความรู้ สติปัญญา และความงอกงามของจิตใจ สำหรับประเทศไทยซึ่งจำเป็นต้องขยายโอกาสทางการศึกษา ด้วยสถาบันใหม่ที่จะมารองรับการศึกษายุคปฏิรูปให้ทันกับโลกยุคการเรียนรู้ แบบไร้ขีดจำกัด (school without walls) เพราะคุณภาพชีวิตของคนรุ่นใหม่ให้คุณค่าต่อการศึกษาเรียนรู้ ที่ทำให้สามารถเข้าใจโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว สามารถเข้าใจปัญหาที่เผชิญหน้าควบคู่ไปกับความเพลิดเพลิน ประเทศจึงต้องการ "พิพิธภัณฑ์" ในฐานะที่เป็นสถาบันใหม่ที่สะท้อนความมั่นคงของสังคม วัฒนธรรม ลักษณะเฉพาะตน และความภาคภูมิใจในสังคมของตน
4.3 แผนการดำเนินงาน (ถ้ามี) : ไม่มี
5. ให้นิสิตแต่ละคนหาตัวอย่างผังโครงสร้างของศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ มาคนละ 2 ผังโครงสร้าง พร้อมเขียนอธิบายดังนี้
5.1 แหล่งอ้างอิงของโครงสร้างศูนย์
5.2 โครงสร้างดังกล่าวเป็นประเภทใด เพราะเหตุใด
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พาณิชย์นาวี

5.1 แหล่งอ้างอิงของโครงสร้างศูนย์ http://www.thailandmuseum.com/panichnavee/org.htm
5.2 โครงสร้างดังกล่าวเป็นประเภทใด เพราะเหตุใด
- มีผังโครงสร้าง แบบ Line Organization เพราะเป็นรูปแบบการจัดโครงสร้างตามงานที่รับผิดชอบในอำนาจหน้าที่กันเป็นขั้น ๆ จากระดับสูงสุดไปจนกระทั้งต่ำสุด
สถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหินและทรัพยากรธรณีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

5.1 แหล่งอ้างอิงของโครงสร้างศูนย์http://www.khoratfossil.org/museum/index.php?option=com_content&task=view&id=20&Itemid=36
5.2 โครงสร้างดังกล่าวเป็นประเภทใด เพราะเหตุใด
- สถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหินและทรัพยากรธรณีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา มีผังโครงสร้าง แบบ Line and Staff Organization เพราะเป็นรูปแบบการจัดโครงสร้างสำหรับหน่วยงานขนาดใหญ่ ซึ่งลำพังผู้บริหารคนเดียวไมสามารถดำเนินการได้ จึงมีในรูปแบบของคณะกรรมการต่าง ๆ เข้ามาเป็นผู้ช่วยควบคุมการทำงานโดยมีอำนาจทางออมในการดำเนินการนั้น ๆ
ตอบ ประเภทของศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้แบ่งได้ 3 ประเภท คือ
1.การศึกษาในระบบ การศึกษาที่กำหนดจุดมุ่งหมาย วิธีการศึกษา หลักสูตร ระยะเวลาของการศึกษา การวัดและประเมินผล ซึ่งเป็นเงื่อนไขของการสำเร็จการศึกษาที่แน่นอนเป็นการจัดการศึกษาที่มีหลักสูตร ครูผู้สอน สื่ออุปกรณ์ รูปแบบวิธีการสอน สถานที่ศึกษา เช่น การจัดการศึกษาก่อนวัยเรียน การศึกษาขั้นพื้นฐาน การศึกษาอาชีวศึกษา และการศึกษาระดับอุดมศึกษา
2.การศึกษานอกระบบ การศึกษาที่จัดให้กับประชาชน ทุกเพศทุกวัย ไม่จากัดพื้นฐานการศึกษา อาชีพ ประสบการณ์หรือความสนใจมีจุดมุ่งหมายที่จะให้ผู้เรียนได้รับความรู้ด้านพื้นฐาน ทักษะในการประกอบอาชีพ และทักษะที่จาเป็นสาหรับความรู้ด้านอื่นๆ เป็นฐานในการดำรงชีวิตการจัดการศึกษานอกระบบ มีความยึดหยุ่นในการกำหนดจุดมุ่งหมาย รูปแบบ วิธีการจัดการศึกษา ระยะเวลาของการศึกษา การวัดผลและ ประเมินผล ซึ่งเป็นเงื่อนไขการสำเร็จการศึกษา โดยเนื้อหาและหลักสูตรจะต้องมีความเหมาะสมสอดคล้องกับวิถีชีวิตและความต้องการของผู้เรียน เช่น การสอนผู้ใหญ่ที่ไม่รู้หนังสือให้อ่านออกเขียนได้ และเข้าใจหน้าที่พลเมือง
3.การศึกษาตามอัธยาศัย การศึกษาที่เกิดขึ้นตามวิถีชีวิตที่ผู้เรียนเรียนรู้ด้วยตนเองตาม
ความสนใจ ศักยภาพ ความพร้อม และโอกาส ศึกษาจากประสบการณ์การทางาน บุคคล ครอบครัว สื่อมวลชน ชุมชน แหล่งความรู้ต่างๆ เพื่อเพิ่มพูนความรู้ ทักษะ ความบันเทิง และการพัฒนาคุณภาพชีวิตโดยมีลักษณะที่สำคัญคือ ไม่มีหลักสูตร ไม่มีเวลาเรียนที่แน่นอน ไม่จากัดอายุ ไม่มีการลงทะเบียน ไม่มีการสอบ ไม่มีการรับประกาศนียบัตร มีหรือไม่มีสถานศึกษาที่แน่นอน เรียนที่ไหนก็ได้ สามารถเรียนได้ตลอดเวลาและเกิดขึ้นในทุกช่วงวัยตลอดชีวิต เช่น เด็กเรียนรู้ เกี่ยวกับภาษาและคาศัพท์ต่างๆ จากโทรทัศน์ จากพ่อแม่
2. ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้แต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร จงอธิบาย
ตอบ
1.ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ประเภทการศึกษาในระบบ เป็นศูนย์ที่สนับสนุนการเรียนการสอนทั้งสื่อ วัสดุ อุปกรณ์ ให้สอดคล้องกับหลักสูตรการเรียนการสอน โดยมีการกำหนดจุดมุ่งหมาย ของวิธีการศึกษา หลักสูตร ระยะเวลาของการศึกษา การวัดและประเมินผล ซึ่งเป็นเงื่อนไขของการสำเร็จการศึกษาที่แน่นอน
2. ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ประเภทการศึกษาในระบบ เป็นศูนย์ที่สนับสนุนการเรียนการสอนทั้งสื่อ วัสดุ อุปกรณ์ ให้สอดคล้องกับหลักสูตรการเรียนการสอน โดยมีการกำหนดจุดมุ่งหมาย ของวิธีการศึกษา หลักสูตร ระยะเวลาของการศึกษา การวัดและประเมินผล ซึ่งเป็นเงื่อนไขของการสำเร็จการศึกษาที่แน่นอน
3. ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ประเภทการศึกษาตามอัธยาศัย เป็นการศึกษาที่เกิดขึ้นตามวิถีชีวิตที่ผู้เรียนเรียนรู้ด้วยตนเองตาม ความสนใจ ศักยภาพ ความพร้อม และโอกาสศึกษาจากประสบการณ์การทำงาน บุคคล แหล่งความรู้ต่างๆ เพื่อเพิ่มพูนความรู้ ทักษะโดยไม่มีหลักสูตร ไม่มีเวลาเรียนที่แน่นอน ไม่จำกัดอายุ ไม่มีการลงทะเบียน ไม่มีการสอบ ไม่มีการรับประกาศนียบัตร มีหรือไม่มีสถานศึกษาที่แน่นอน
3. ให้นิสิตหาตัวอย่างศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ประเภท ละ 3 ศูนย์ พร้อมบอกสถานที่ตั้ง และกลุ่มเป้าหมายของศูนย์นั้น ๆ พร้อมแหล่งอ้างอิง
ตอบ
ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ประเภทการศึกษาในระบบ ได้แก่
- สำนักหอสมุดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
สถานที่ตั้ง : 239 ถนนห้วยแก้ว อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50200
กลุ่มเป้าหมาย : นิสิต นักศึกษา อาจารย์และบุคลากร
แหล่งอ้างอิง : http://library.cmu.ac.th/cmul/
- สำนักหอสมุด มหาวิทยลัยเกษตรศาสตร์
สถานที่ตั้ง : เลขที่ 50 ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900
กลุ่มเป้าหมาย : นิสิต นักศึกษา อาจารย์และบุคลากร
แหล่งอ้างอิง : http://www.ku.ac.th/portal/
- สำนักหอสมุดมหาวิทยาลัยบูรพา
สถานที่ตั้ง : 169 ถ.ลงหาดบางแสน ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี 20131
กลุ่มเป้าหมาย : นิสิต นักศึกษา อาจารย์และบุคลากร
แหล่งอ้างอิง : http://www.lib.buu.ac.th/webnew2/
ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ประเภทการศึกษาในระบบ ได้แก่
- ศูนย์ฝึกอาชีพสวนลุมพินี
สถานที่ตั้ง : สวนลุมพินี ติดที่จอดรถด้านใน ประตู 8 ใกล้ ถนนสารสิน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานครกลุ่มเป้าหมาย : ประชาชนทั่วไป ทุกเพศ ทุกวัย แหล่งอ้างอิง : http://www.suanlumtrain.com/
- ศูนย์ฝึกอาชีพเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ครบ 36 พรรษา
สถานที่ตั้ง : 104 ม.3 ต.บางละมุง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี 20150
กลุ่มเป้าหมาย : ประชาชนทั่วไป ทุกเพศ ทุกวัย แหล่งอ้างอิง : http://www.svtc.go.th/th/about.php
- ศูนย์ฝึกอาชีพบางพลัด
สถานที่ตั้ง : ซอยจรัลสนิทวงศ์ 79 ถนนจรัญสนิทวงศ์ เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร
กลุ่มเป้าหมาย : ประชาชนทั่วไป ทุกเพศ ทุกวัย แหล่งอ้างอิง : http://www.bangpald.th.gs
ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ประเภทการศึกษาตามอัธยาศัย ได้แก่
- สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ Museum Siam
สถานที่ตั้ง : เลขที่ 4 ถนนสนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200 กลุ่มเป้าหมาย : ประชาชนทั่วไป ทุกเพศ ทุกวัย แหล่งอ้างอิง : http://museumsiam.com/
- พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย
สถานที่ตั้ง : ตั้งอยู่บนเขาหมาจอ ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
กลุ่มเป้าหมาย : ประชาชนทั่วไป ทุกเพศ ทุกวัย
แหล่งอ้างอิง : http://www.tis-museum.org/index_sub.html
- พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.)
สถานที่ตั้ง : กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนธานี ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 12120กลุ่มเป้าหมาย : ประชาชนทั่วไป ทุกเพศ ทุกวัย
แหล่งอ้างอิง : http://www.nsm.or.th/nsm2009/index.php
4. ให้นิสิตแต่ละคน หาตัวอย่างของศูนย์สำหรับการศึกษาตามอัธยาศัยมา คนละ 1 ศูนย์ โดยต้องอธิบายดังรายละเอียดต่อไปนี้
4.1 นโยบาย ของศูนย์ วิสัยทัศน์ และกลุ่มเป้าหมายของศูนย์
สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ Museum Siam
นโยบาย : เพื่อเปิดกว้างทางการศึกษา และทั้งนำมาซึ่งความมีชีวิตชีวา และความเพลิดเพลิน บทบาทพิพิธภัณฑ์ยุคใหม่ เป็นแหล่งเรียนรู้ที่รื่นรมย์ ด้วยเทคนิคที่ทันสมัย ช่วยให้ผู้คนตระหนักรู้ในอัตลักษณ์ของตน และสภาพแวดล้อม พิพิธภัณฑ์ยุคใหม่ต้องไม่แยกตัวออกจากสังคมและ ชีวิตประจำวัน แต่จะต้องส่งเสริมให้ผู้คนมีสำนึกให้วิถีชีวิต ความเป็นมาทั้งในและนอกท้องถิ่นของตน ไม่เน้นการเรียนรู้ที่ชิ้นวัตถุเพื่อรู้จักชิ้น วัตถุ แต่เพื่อเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ และมนุษย์กับธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม โดยการนำเสนอประเด็นในรูปแบบที่มีความหลากหลายมากกว่าการแสดงชิ้นวัตถุ เน้นกระบวนการเรียนรู้แสวงหาความรู้ที่มีความเคลื่อนไหวมากกว่าการเป็นสถาบันที่แข็งตัว เปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วม มีการเชื่อมโยงออกสู่ชุมชนบ้านโรงเรียนโดยใช้การสื่อสารออกไปสู่สภาพแวดล้อมภายนอก
วิสัยทัศน์ : เป็นแหล่งเรียนรู้ที่ให้ความรู้เรื่องความเป็นมาของ บ้านเมือง จนมาเป็นประเทศไทยในปัจจุบัน เพื่อก่อเกิดการเรียนรู้ สร้างสำนึกรักบ้านเมืองและท้องถิ่นของตน รวมทั้งเชื่อมโยงความสัมพันธ์ในลักษณะ"เครือญาติ" กับประเทศเพื่อนบ้านอันเป็นองค์ความรู้ที่นำไปสู่ความมั่นคงและสันติภาพใน ภูมิภาค
กลุ่มเป้าหมาย : กลุ่มเป้าหมายหลัก คือ คนไทย ประกอบด้วยเด็ก เยาวชน นักเรียน นักศึกษา ประชาชนทั่วไป กลุ่มเป้าหมายรอง คือ คนต่างประเทศ นักท่องเที่ยว
4.2 แหล่งที่มาของศูนย์ :รัฐบาลมีภารกิจที่สำคัญ คือ การทำให้สังคมไทยเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ ทำให้คนไทยมี คุณภาพด้วยการที่สามารถแสวงหาความรู้ใหม่ๆ ด้วยตนเองได้ตลอดเวลา ดังนั้นสังคมจึงควรมีแหล่งที่จะแสวงหาความรู้ที่มีความหลากหลายในรูปแบบและ เนื้อหา ในประเทศที่พัฒนาแล้วส่วนมากจะมีแหล่งแสวงหาความรู้สำหรับคนในแต่ละช่วงวัย และมีความสนใจต่างๆ โดยมีทั้งห้องสมุด พิพิธภัณฑ์ ศูนย์วัฒนธรรม ศูนย์นันทนาการและกีฬา โรงละคร หอศิลป์ และสถานที่แสดงดนตรี รวมทั้งสนับสนุนให้ ชุมชนมีกิจกรรมเพื่อการเติบโตของความรู้ สติปัญญา และความงอกงามของจิตใจ สำหรับประเทศไทยซึ่งจำเป็นต้องขยายโอกาสทางการศึกษา ด้วยสถาบันใหม่ที่จะมารองรับการศึกษายุคปฏิรูปให้ทันกับโลกยุคการเรียนรู้ แบบไร้ขีดจำกัด (school without walls) เพราะคุณภาพชีวิตของคนรุ่นใหม่ให้คุณค่าต่อการศึกษาเรียนรู้ ที่ทำให้สามารถเข้าใจโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว สามารถเข้าใจปัญหาที่เผชิญหน้าควบคู่ไปกับความเพลิดเพลิน ประเทศจึงต้องการ "พิพิธภัณฑ์" ในฐานะที่เป็นสถาบันใหม่ที่สะท้อนความมั่นคงของสังคม วัฒนธรรม ลักษณะเฉพาะตน และความภาคภูมิใจในสังคมของตน
4.3 แผนการดำเนินงาน (ถ้ามี) : ไม่มี
5. ให้นิสิตแต่ละคนหาตัวอย่างผังโครงสร้างของศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ มาคนละ 2 ผังโครงสร้าง พร้อมเขียนอธิบายดังนี้
5.1 แหล่งอ้างอิงของโครงสร้างศูนย์
5.2 โครงสร้างดังกล่าวเป็นประเภทใด เพราะเหตุใด
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พาณิชย์นาวี
5.1 แหล่งอ้างอิงของโครงสร้างศูนย์ http://www.thailandmuseum.com/panichnavee/org.htm
5.2 โครงสร้างดังกล่าวเป็นประเภทใด เพราะเหตุใด
- มีผังโครงสร้าง แบบ Line Organization เพราะเป็นรูปแบบการจัดโครงสร้างตามงานที่รับผิดชอบในอำนาจหน้าที่กันเป็นขั้น ๆ จากระดับสูงสุดไปจนกระทั้งต่ำสุด
สถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหินและทรัพยากรธรณีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
5.1 แหล่งอ้างอิงของโครงสร้างศูนย์http://www.khoratfossil.org/museum/index.php?option=com_content&task=view&id=20&Itemid=36
5.2 โครงสร้างดังกล่าวเป็นประเภทใด เพราะเหตุใด
- สถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหินและทรัพยากรธรณีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา มีผังโครงสร้าง แบบ Line and Staff Organization เพราะเป็นรูปแบบการจัดโครงสร้างสำหรับหน่วยงานขนาดใหญ่ ซึ่งลำพังผู้บริหารคนเดียวไมสามารถดำเนินการได้ จึงมีในรูปแบบของคณะกรรมการต่าง ๆ เข้ามาเป็นผู้ช่วยควบคุมการทำงานโดยมีอำนาจทางออมในการดำเนินการนั้น ๆ
วันอังคารที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2554
หลักการบริหารในการจัดการ ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้
หลักการบริหารในการจัดการ
หลักการบริหารของ Fayol
1. การแบ่งงานกันทำ
2. อำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบ
3. ระเบียบวินัย
4. เอกภาพในการบังคับบัญชา
5. เอกภาพของการอำนวยการ
6. การถือเอาประโยชน์ส่วนรวมก่อนประโยชน์ส่วนตัว
7. การให้ผลตอบแทนที่เหมาะสมและเป็นธรรม
8. การรวมอำนาจ
9. การมีสายการบังคับบัญชาที่ชัดเจน
10.การจัดระเบียบ
11. ความเสมอภาค
12.ความมั่นคงในการทำงาน
13.ความคิดริเริ่ม
14.ความสามัคคี
หลักการการจัดการที่สำคัญของ Fayol
1. การวางแผน (Planning)
2. การจัดองค์กร (Organizing)
3. การบังคับบัญชา (Command)
4. การประสานงาน (Co-ordination)
5. การควบคุม (Control)
การจัดการตามหลักการบริหาร ของ Oliver Sheldon
Oliver Sheldon ชาวอังกฤษได้พัฒนาความคิดในเรื่องการจัดการและการบริหาร
หลักการของ Sheldon แบ่งออกเป็น 3 ประการ
1. การบริหาร (Administration)
เป็นเรื่องเกี่ยวกับการกำหนดนโยบายและการประสานงานในหน้าที่ต่างๆ
2. การจัดการ (Management)
เป็นเรื่องเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายภายในขอบเขตจำกัดซึ่งกำหนดขึ้นโดยฝ่ายบริหาร
3. หน้าที่ในการจัดองค์การ
เป็นกระบวนการประสานงานระหว่างบุคคลหรือระหว่างกลุ่มบุคคล
การจัดการตามหลักการบริหาร POSDCORB
P (Planning) การวางแผน : เป็นการกำหนดสิ่งที่ต้องการและวิธีการให้บรรลุผลตามต้องการ
O (Organizing) การจัดองค์การ : เป็นการกำหนดโครงสร้างที่เป็นทางการของอำนาจ
S (Staffing) การบริหารงานบุคคล
D (Directing) การสั่งการ
CO (Co-ordinating) การประสานงาน
R (Reporting) การรายงานต่อฝ่ายบริหาร
B (Budgeting) การวางแผนการเงิน บัญชีและการควบคุม
ขอบข่ายงานการจัดตั้งศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้
1.ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้การศึกษาในระบบโรงเรียน เช่น ศูนย์สื่อการศึกษา ห้องสมุดโรงเรียน ศูนย์เทคโนโลยีการศึกษา เป็นต้น
2.ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้การศึกษานอกระบบโรงเรียนและการศึกษาตามอัธยศัย เช่น ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ข้าวหลามหนองมน ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้วัฒนธรรมเขมร เป็นต้น
วันอังคารที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2554
BURAPHA UNIVERSITY LIBRARY สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยบูรพา
ประวัติ
สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยบูรพา เป็นหน่วยงานส่งเสริมวิชาการของมหาวิทยาลัยทำหน้าที่เป็นศูนย์บริการ สารสนเทศเพื่อการศึกษา ค้นคว้า และวิจัย พัฒนามาจากห้องอ่านหนังสือ ซึ่งเปิดบริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2498 โดยใช้ห้องเลขที่ 203 ในอาคารเรียนของวิทยาลัยวิชาการศึกษาบางแสน ต่อมาในปี พ.ศ. 2499 ห้องสมุดได้ย้ายมาอยู่อาคารอำนวยการ โดยได้ใช้ห้องชั้นล่างของอาคารเป็นที่ปฏิบัติงานจนถึงปี พ.ศ. 2503 วิทยาลัยได้สร้างอาคารเรียนหลังใหม่เสร็จเรียบร้อย ห้องสมุดได้ย้ายอีกครั้งมาอยู่ในห้องโถงชั้นล่างของอาคารเรียนซีกหนึ่ง จนกระทั่งปี พ.ศ. 2516 วิทยาลัยได้งบประมาณก่อสร้างอาคารหอสมุดเป็นเอกเทศ มีลักษณะเป็นอาคาร 2 ชั้น และเปิดใช้เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2516
เมื่อวิทยาลัยวิชาการศึกษาได้รับการเปลี่ยนฐานะเป็นมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิ โรฒ วิทยาเขตบางแสน และมหาวิทยาลัยบูรพา ตามลำดับนั้น ในปีงบประมาณ 2536-2539 สำนักหอสมุดได้รับงบประมาณการก่อสร้างอาคารสำนักหอสมุดหลังใหม่สูง 7 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย 11,500 ตารางเมตร และได้รับพระกรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อ “อาคารเทพรัตนราชสุดา” และเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดอาคาร เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2538
ปรัชญา
ห้องสมุดเป็นแหล่งเรียนรู้สู่การพัฒนาสังคม
ปณิธาน
ก้าวสู่ความเป็นเลิศทางการให้บริการสารสนเทศ พร้อมกับมุ่งมั่นให้บริการดัวยความสะดวก รวดเร็ว แม่นยำ น่าเชื่อถือ ด้วยความมีมิตรไมตรีี
วิสัยทัศน์
มุ่งพัฒนาสู่ความเป็นเลิศในการให้บริการสารสนเทศ ด้วยบุคลากรที่มีคุณภาพและเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อความเป็นมาตรฐานสากล
หอสมุดมหาวิทยาลัยบูรพามีทั้งหมด 7 ชั้น แต่ละชั้นมีอะไรบ้าง?
ชั้น1 : - บริเวณที่นั่งอ่านหนังสือ หรือ ที่นั่งพักผ่อนริมน้ำ
- บริเวณออกกำลังกาย
- บริเวณรับประทานอาหาร และเครื่องดื่มภายในอาคาร
ชั้น2 : - สมัครสมาชิกห้องสมุด
- ยืม-คืนหนังสือ
- ยืมระหว่างห้องสมุด - นำชมห้องสมุด
- ฝึกอบรมการสืบค้นOPACและฐานข้อมูล อิเล็กทรอนิกส์
- ตอบคำถามและช่วยการค้นคว้า
- หนังสือภาษาต่างประเทศ
- หนังสือ SET Corner
ชั้น3 : - หนังสือภาษาไทย นวนิยาย เรื่องสั้น หนังสือเด็ก
- ถ่ายเอกสาร
ชั้น4 : - วารสาร หนังสือพิมพ์จดหมายข่าว
- สืบค้นฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
- ถ่ายเอกสาร
ชั้น5 : - ยืม-คืน วิทยานิพนธ์
- วิทยานิพนธ์ หนังสืออ้างอิง
- หนังสือหายาก จุลสาร กฤตภาค หนังสือ ราชกิจจานุเบกษา
- สารสนเทศภาคตะวันออก
ชั้น6 : - ยืม-คืน สื่ออิเล็กทรอนิกส์/สื่อโสตทัศน์
- ชุดศึกษาเทปวีดิทัศน์, วีซีดี, ซีดีรอม- มัลติมีเดีย, เทปเสียงและรายการโทรทัศน์
ผ่านดาว เทียม/UBC
- อินเทอร์เน็ตและศูนย์ข้อมูลอินเทอร์เน็ต
- ห้องมินิโฮมเธียเตอร
ชั้น7 : - ขอเลข ISBN และ ISSN
- หนังสือพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
- หนังสือภาษาไทย พิมพ์ก่อน พ.ศ. 2526
- หนังสือภาษาต่างประเทศ พิมพ์ก่อน ค.ศ.1970
เว็บไซต์หอสมุด : http://www.lib.buu.ac.th
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)